ยินดีต้อนรับ

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู Information and Communication Technology for Teachers

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไดอารีกับความทรงจำของวันวาน

               วันอาทิตย์ ที่13 กรกฎาคม พ.ศ.2557  ผมได้ไปเที่ยวที่ตลาดปลาสวยงาม บ้านโป่ง ราชบุรี  ที่นั้นมีปลาสวยงามมายหลากหลายพันธุ์ มีทั้งปลาคาร์ฟ ปลาทอง ปลาตะเพียน ปลาทับทิม ปลานิล ปลาสวาย ปลาดุก ฯลฯ  มีปลาชนิดหนึ่งที่ผมสะดุกตานั้นคือปลาจาระเม็ด ลักษณะของมันคล้ายปลาปิรันย่ามาก ผมก็เลยซื้อมาเลี้ยง1ถุง ทีแรกผมตั้งใจที่จะไปซื้อปลาทับทิมอย่างเดียวแต่มันมีกิเลสครอบงำตอนเดินดูปลา มีปลาต่างๆนานามากมายมาว่างอยู่ข้างทางทำให้ผมอยากได้ไปหมดทุกตัวเลย แน่นอนเรื่องเงินไม่พออยู่แล้วที่จะซื้อปลาทั้งตลาด ผมก็เลยซื้อมาแค่ปลาทับทิม1ถุง40ตัว ปลาจาระเม็ด1ถุง11ตัว ปลาตะเพียนเผือก1ถุง4ตัว ปลาตะพาก1ถุง15ตัว เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น320บาท  พอกลับมาถึงบ้านก็อัพรูปลงFacebook , Line อวดเพื่อน ปลาทับทิมตัวหนึ่งพอเอาลงอ่างได้15นาทีก็หงายท้องเลย  ปลาตะเพียนกับปลาตะพาก ตอนเอามาไว้ในตู้ใหม่ๆมันขี้ตกใจและขี้กลัวมากแค่คนเดินผ่านตู้มันก็ว่ายชนกระจกของตู้ปลา ผ่านไป1สัปดาห์เหมือนปลาอดอยากให้อาหารแปบเดียวกินหมดและไม่รู้จักพอ
                ตอนปิดภาคเรียนฤดูร้อน ปี2557 ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมผมได้ไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของผมที่จังหวัดเลย นั้นก็คือบ้านตายายของผมเอง วันแรกที่ผมไปถึงผมก็เดินรอบบ้านด้วยความตื่นเต้นเดินสำรวจพื้นที่บริเวณบ้าน เดินไปดูที่เล้าเป็ด ไปดูปลานิลที่ตาของผมเลี้ยงเอาไว้ ผ่านไป2สัปดาห์ฝายขาดเพราะฝนตกหนัก ผมถามยายว่า"ยายฝนมันตกเมื่อคืนแล้วทำไมฝายพึ่งมาขาดตอน10โมงเช้า" ยายบอกผมว่า"นํ้ามันไหลมาจากภูเขาข้างบนนู้น มันก็เลยต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึงที่ฝาย" พอนํ้าจากภูเขาไหลมาถึง ทำให้ระดับนํ้าในฝายสูงขึ้น นํ้าจึงไหลไปกัดเสาะดินข้างๆทำให้ดินถล่มและเปิดทางนํ้าให้กว้างขึ้น เมื่อนํ้าไหลกัดเสาะดินไปเรื่อยๆจนตัวฝายรับแรงดันนํ้าไม่ไหว ฝายจึงพังพานํ้าและปลาไหลออกไปเป็นจำนวนมาก หลังจากฝายขาด2ชั่วโมง ผมก็ไปเดินเก็บปลาเก็บกุ้งที่เกยตื้นมาประกอบอาหาร วันที่2และ3หลังจากที่ีฝายขาดผมก็เอาสะดุ้งของยายไปยกปลา ผมใช้สะดุ้งเล็กๆความกว้างแค่3ศอกก็เลยยกได้แต่ปลาซิวปลาสร้อยก็มีได้ปลานิลปลาตะเพียนตัวเล็กๆบ้าง พอผมได้จับปลาจนพอใจและผมก็เอาปลาที่ผมจับได้นี้ไปให้ยายทำปลาส้มไปขายที่ตลาดและผมก็ได้ส่วนแบ่ง100บาท หลังจากนั้นผมก็ไปยกสะดุ้งเกือบทุกวัน บางวันยายที่เป็นญาติของผมก็จะพาผมไปยกข้างบนต้นแม่นํ้าเดินเลาะไปตามแม่นํ้าประมาณ3กิโลเมตรยกไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ปลาตามต้องการ แล้วจึงเก็บสะดุ้งเดินกลับบ้าน วันไหนที่ผมได้น้อยยายเขาก็จะแบ่งของเขามาให้ ปลาที่ผมเคยยกสะดุ้งได้ก็มีปลาขาว ปลาหมาหาว ปลานิล ปลาหมอ ปลาตะเพียน ปลากด ปลาเนื้ออ่อน ปลาหลดปาหลาด ปลาช่อน ปลาดุก ปลาไหล (บ้างชื่อที่กล่าวมานี้เป็นชื่อท้องถิ่นที่คนในบริเวณนี้เรียกกัน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น